การวิเคราะห์ทัศนภาพ เป็นกระบวนการสำหรับวิเคราะห์เหตุการณ์ในอนาคตที่เป็นไปได้ โดยการพิจารณาจากทางเลือกที่เป็นไปได้ ซึ่งการวิเคราะห์แบบนี้จะพิจารณาทั้ง
ส่วนที่เป็น Low Extreme และHigh Extreme ในการวิเคราะห์แบบ Scenario
Analysis จะพิจารณาสิ่งที่เป็นแรงขับ (Driving Forces or Future Trend) โดย
Driving Forces มีอยู่ด้วยกันหลายตัว เช่น
1. Generation Values หรือค่านิยมของคนแต่ละยุคสมัย
2. Population Aging ในปีพ.ศ. 2568 สังคมไทยจะมีโครงสร้าง ดังนี้
- ประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 14 ล้านคน(22%) อายุ 15-59 ปี ประมาณ 40 ล้านคน (61%) อายุ 15 ปีลงมา ประมาณ 11 ล้านคน (17%) - จำนวนครัวเรือนเพิ่มขึ้น จำนวนสมาชิกในครอบครัวลดลง - คนไทยมีลูกน้อยลง - คนย้ายถิ่นมาอยู่ในเมืองมากขึ้นถึง 61% - แรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้นเพราะแรงงานไทยหลีกเลี่ยงงานสกปรก งานอันตราย และงานยาก ปัญหาเหล่านี้ทำให้เราต้องคำนึงถึงว่าจะวางแผนรับมืออย่างไร
3. Creative Economy หรือ เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ หมายถึง การมีองค์ประกอบร่วมของแนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการใช้องค์ความรู้ การศึกษา การสร้างสรรค์งาน และการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา ที่เชื่อมโยงกับรากฐานทางวัฒนธรรม การสั่งสมความรู้ของสังคม
และเทคโนโลยี/นวัตกรรมสมัยใหม่ Creative Economy จึงมีSupply ที่หลากหลาย
ในขณะที่ Demand มีเฉพาะ เช่น ชาชัก ฯลฯ
4. GRIN หรือ Genetics, Robotics, Internet Technology and Nano Technology
ข้าพเจ้าคิดว่า
ข้อดีของ Scenario Analysis คือเราสามารถพิจารณาผลกระทบของเหตุการณ์หนึ่งๆ ซึ่งการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงเป็นแบบเหตุการณ์ๆไปทำให้เราสามารถพิจารณาถึงความสัมพันธ์กันของปัจจัยหลายๆปัจจัยที่เกี่ยวข้องกัน วิธีนี้จึงเป็นการพิจารณาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงที่ได้คำนึงถึงความสัมพันธ์ของตัวแปรหลายๆตัวพร้อมกันแล้ว ซึ่งจะดีกว่าการที่เราสมมุติว่าให้ปัจจัยหนึ่งเปลี่ยนโดยปัจจัยอื่นๆ ทุกตัวไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ข้อเสียของวิธีนี้คือ สมองของเราไม่อาจคาดการณ์ว่ามีเหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นได้บ้างเพราะเหตุการณ์มีได้มากมายหลายเหตุการณ์ การคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่าง ๆ ก็เป็นการประมาณการซึ่งอาจผิดพลาดได้เสมอ ดังนั้นวิธีนี้จึงขึ้นอยู่กับผู้วิเคราะห์และความสามารถในการคาดการณ์ค่อนข้างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น